คู่กรณีหลักในสงครามกลางเมืองเยเมนแลกเปลี่ยนนักโทษรวมกันมากกว่า 1,000 คน ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หลังเจรจากันในเรื่องดังหล่าวตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ( ไอซีอาร์ซี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการจัดเที่ยวบินพิเศษ 7 เที่ยว ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ส่งนักโทษชุดแรกรวมมากกว่า 700 คน เดินทางระหว่างเยเมนกับซาอุดีอาระเบีย ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างรัฐบาลพลัดถิ่นของเยเมน ซึ่งมีฐานอยู่เมืองเอเดน กับกลุ่มกบฏฮูตี ที่ยังคงยึดครองกรุงซานาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
 
ทั้งนี้ สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาครั้งใหม่ ระหว่างคู่กรณีหลักของสงครามเยเมน ที่กรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยหนึ่งในข้อตกลงสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกัน คือการปล่อยตัวนักโทษ ซึ่งกลุ่มฮูตีตกลงปล่อยตัวประมาณ 400 คน แลกกับการที่รัฐบาลพลัดถิ่นและพันธมิตรอาหรับภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบียปล่อยตัวนักโทษ 681 คน รวมทั้งสิ้น 1,081 คน จากจำนวนดังกล่าว 15 คนเป็นชาวซาอุดีอาระเบีย
 
เดิมทีทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ปี 2561 โดยเห็นชอบการแลกเปลี่ยนนักโทษรวมกันมากกว่า 15,000 คน แต่ข้อจำกัดหลายอย่างส่งผลให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้า อนึ่ง สถานการณ์ในเยเมนกำลังกลายเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก ตามการประเมินของยูเอ็น โดยนอกจากผู้เสียชีวิตเกือบ 13,000 คน นับตั้งแต่รัฐบาลริยาดเข้ามาปฏิบัติการทางทหารเมื่อเดือนมี.ค. 2558 แล้ว ยังเกิดภาวะอดอยาก และโรคระบาดหลายโรครวมถึงอหิวาตกโรค ที่คร่าชีวิตชาวเยเมนไปแล้วเกือบ 4,000 คน นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 ตามการประเมินโดยองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ )
 
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวนี้ยังเกิดขึ้น “อย่างประจวบเหมาะ” หลังกลุ่มฮูตีปล่อยตัวประกันซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐ 2 คน แลกกับการที่สมาชิกกลุ่มฮูตีซึ่งติดค้างอยู่ที่โอมานประมาณ 240 คน ได้เดินทางกลับเข้ามาในเยเมน